กาลเวลากับอนาคต

มีหลายคนเคยสอบถาม เข้ามาว่าผู้ปกครอง  มีส่วนต่อการตัดสินใจในอนาคตของลูกหลาน มากน้อยขนาดไหน กาลเวลากับอนาคต  จากประสบการณ์ที่ได้คลุกคลีกับนักเรียนมาเกือบ 25 ปี สิ่งที่คนได้สอบถามมา ตอบได้ค่อนข้างแน่ใจ  มันมีส่วนอย่างมากมาย  เด็กบางคนสอบเรียนต่อในสถาบันหนึ่ง แต่เป็นสาขาที่ผู้ปกครองไม่ปลื้ม หรือประจวบเหมาะกับบุตรหลาน ก็ไม่ได้หวัง ก็เพียงลงสาขากันไว้

พอได้รู้ว่า สอบได้นะ พอเรียนไปสักระยะ ก็หาเรื่องว่า ไม่เหมาะกับตัวเอง  แต่หากมองไปตามระยะเวลา ก็ผ่านไป 365 วัน อายุของผู้เรียนก็ผ่านไป เช่นกัน  แล้วมาย้อนถามต่อว่า ผู้ปกครองเข้ามาตอนไหน ก็ตอบได้อย่างชัดเจน ” หากลูกเรียนไม่ได้ ก็หยุดเรียน ไปดรอปไว้ก่อน  ไปอ่านหนังสือสอบก่อน  หากสอบไม่ได้ ค่อยกลับมาเรียน  ” 

ผ่านไปอีก 3 ขวบปี ก็วนเวียนข้อความของผู้ปกครอง เยี่ยงนี้ตลอด จากประเด็นปัญหาทั้งหมดทั้งสิ้นนี้ ถามว่า ใครเป็นคนทำร้าย บุตรหลานให้ตกในวงเวียนของความไม่เจริญงอกงาม ทางด้านความคิด และตราบาปนี้ มันจะซึมเข้าสู่ ความไม่รู้ในการวางแผน ในอนาคต  ดั่งกับข้อความที่เคยได้รับฟังว่า ”  ความรู้ท่วมหัว  เอาตัวไม่รอด” 

สุดท้ายปลายทาง  เข้าสู่ปีที่ 4  บุตรหลานก็ยังไม่มีสถานศึกษาที่สังกัดได้เลย ภาวะความเครียด (Stress) จากความรู้สึก ที่ถูกบีบคั้น กดดัน จากผู้ปกครองและคนรอบข้าง จะเริ่มแสดงอาการ นอนไม่หลับ ปวดหัว ซึมเศร้า บางคนอาจมีอาการประสาทหลอนได้  ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน  จนพัฒนาเป็นโรคที่ฮิตแห่งปี  นั่นคือโรคซึมเศร้า  หรือโรควิตกกังวล นั่นเอง

 แล้วคนรอบข้าง  ได้รับผลที่เกิดขึ้นอย่างไร  ตอบได้อย่างไม่ต้องพึ่งข้อมูลสารสนเทศใด ๆ สิ่งเหล่านี้มันส่งผลร้ายแรงต่อครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นสังคมรอบข้าง จะมองถึงความล่มเหลวในการเลี้ยงดู บุตรหลาน  หรืออาจมองไปถึงการไม่ใช้หลักการทางวิทยาศาสตร์เข้ามาใช้ในการวางแผนอนาคตของลูกหลาน ขาดข้อมูลที่สำคัญในการวางแผน ไม่ว่าจะเป็นการเก็บรวบรวมข้อมูล 

การวิเคราะห์ข้อมูล และการใช้สารสนเทศในการวางอนาคตของบุตรหลาน ตราบาปทั้งหมดนี้ล้วนส่งผลต่อลูกหลาน  www.ufabet.com ช่องทางเข้าเว็ปพนัน  ทางแก้ปัญหาที่พบเจอมากที่สุด ในกลุ่มวัยรุ่นก็จะมาในการใช้เทคโนโลยีอันทันสมัย ในการระบายข้อความที่อัดอั้น ในส่วนลึกของจิตใจ  ระบายผ่านช่องทางสื่อออนไลน์ ให้โลกได้รับรู้  จนบางครั้งได้รับทราบจากข่าวสาร วัยรุ่นที่เป็นโรควิตกกังวล

จากสิ่งที่คาดหวัง แล้วไม่ได้ดั่งใจ คิดสั่นผูกคอตาย ประชดชีวิต อะไรประมาณนั่น  ก็ภาวนา ให้ลูกหลานที่รู้จักในปัจจุบัน ที่อยู่ในวิถีของผู้ปกครอง ไม่เปิดโลกทัศน์ ไม่รับฟังคนรอบข้าง หรือมีแนวคิดเดิม ๆ บุตรหลานต้องได้เรียนในสาขา อันดับหนึ่งตามกระแส สังคมของผู้ปกครองที่ คิดว่าตัวเองเป็นคนชั้นสูง ก็ภาวนาอย่าให้เกิดเหตุร้ายเลย

กาลเวลากับอนาคต

You May Also Like